วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553
สะพานสายรุ้ง.wmv
วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553
เสียงแตก สมาพันธ์แพทย์ผุด คบส.สู้กรรมการ 3 ฝ่าย วงการหมอปั่นป่วน

--
http://www.classifiedthai.com/event_view.php
สลดช้างย่ำบึ้มในพม่า เท้าเละ-คอยคุกเข่า
สลดช้างย่ำบึ้มในพม่า เท้าเละ-คอยคุกเข่า
เข้าร.พ.ช้างลำปาง
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 4 ส.ค. โรงพยาบาลช้าง มูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง รับตัวช้างพังแม่คาแพ อายุ 22 ปี จาก อ.แม่สอด จ.ตาก เข้ารักษา เนื่องจากประสบอุบัติเหตุเหยียบกับระเบิด ขณะชักลากไม้ในป่าแม่กระมาย เขต จ.เมียววดี ประเทศพม่า จนขาหลังซ้ายเป็นบาดแผลฉกรรจ์
น.สพ.ปรีชา พวงคำ ผอ.ร.พ.ช้าง เปิดเผยว่า ได้รับการประสานงานจากเจ้าของช้างพังแม่คาแพ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่าจะนำช้างมารักษา เนื่องจากบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดฝั่งประเทศพม่า จากการตรวจดูบาดแผล พบว่าที่อุ้งเท้าขาหลังด้านซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ ฝ่าเท้าเละ แต่ยังมีเล็บอยู่ครบ เนื้อตายส่งกลิ่นเหม็น และมีหนองเคลือบอยู่บางส่วน ช้างไม่สามารถลงน้ำหนักที่เท้าได้ เวลาเดินจะคอยคุกเข่าอยู่ตลอด สัตวแพทย์ฉีดยาป้องกันบาดทะยัก ให้ยาแก้ปวด และยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อ และเฝ้าดูอาการตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากว่าช้างเพิ่งเดินทางมาถึงวันแรกอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับสถานที่ ทำให้ช้างยังตื่นอยู่บ้าง ต้องรอให้ช้างคุ้นเคยไปสักพักก่อน ถึงจะตรวจและรักษาได้อย่างเต็มที่
ผอ.ร.พ.ช้าง กล่าวต่อว่า สิ่งที่เป็นห่วงคือ กลัวบาดแผลจะติดเชื้อบาดทะยัก เนื่องจากว่าช้างเหยียบระเบิดมานานกว่า 7 วันแล้ว แต่ทีมสัตวแพทย์จะพยายามอย่างเต็มที่ เนื่องจากว่ามีประสบการณ์รักษาช้างเหยียบกับระเบิดมาแล้วหลายเชือก คาดว่าจะต้องใช้เวลารักษาอย่างน้อย 1 ปี ช้างยังมีอายุน้อยอยู่ บาดแผลจะหายได้เร็วกว่าช้างที่มีอายุมาก หากแผลหายก็จะสามารถเดินได้ปกติเหมือนเดิม แต่ขณะนี้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้งช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย อาจจะทำให้ช้างเป็นปอดบวม และเครียดง่าย จะส่งผลให้ร่างกายของช้างแย่ลงได้
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJNE1Ea3pPREUwT1E9PQ==
http://www.classifiedthai.com/event_view.php
: บูรพาพยัคฆ์
บูรพาพยัคฆ์
คอลัมน์ คอลัมน์ที่13
"บูรพาพยัคฆ์" คือชื่อเรียกนายทหารที่รับราชการ หรือเคยผ่านการรับราชการในหน่วยกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.)
อันเป็นหน่วยที่ดูแลกองกำลังบูรพา รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออก
ซึ่งกองทัพประเมินว่าชายแดนด้านตะวันออกที่ติดกับพื้นที่ประเทศกัมพูชาเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดของประเทศ
ชื่อ บูรพาพยัคฆ์มีที่มาจากรากศัพท์จากฐานทัพที่กองทัพใช้หน่วยทหารต่างๆ เผชิญหน้าการสงครามระหว่างที่กัมพูชามีปัญหาความขัดแย้ง "เขมร 4 ฝ่าย" สมัยปี พ.ศ.2522
พล.ร.2 รอ. ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้เป็นหน่วยทหารรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เป็นกองพลทหารราบยานเกราะ กองพลเดียวในประเทศไทย
มีหน่วยขึ้นตรงภายใต้บังคับบัญชา ประกอบด้วย
กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) ค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี
กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 รอ.) ค่ายไพรีระย่อเดช จ.สระแก้ว
กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) (ทหารเสือราชินี) ค่ายนวมินทราชินี "ทหารเสือราชินี" จ.ชลบุรี
กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ (ป.2 รอ.) ค่ายพรหมโยธี จ.ปราจีนบุรี
รวมถึง
กอง พันทหารม้าที่ 30 รักษาพระองค์ (ม.พัน.30 รอ.) กองพันทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (ม.พัน.2 รอ.) กองพันทหารช่างที่ 2 รักษาพระองค์ (ช.พัน.2 รอ.) กองพันทหารสื่อสารที่ 2 รักษาพระองค์ (ส.พัน.2 รอ.)
ในอดีตเคย มีนายทหารคนสำคัญ ที่เคยเติบโตมาจาก พล.ร.2 รอ. เช่น พล.อ.ศัลย์ ศรีเพ็ญ อดีตรองผบ.ทบ. พล.อ.ชัยณรงค์ หนุนภักดี อดีตรองผบ.สส. พล.อ.นิพนธ์ ภารัญนิตย์ อดีตรองผบ.ทบ. พล.อ.อาชวินทร์ เศวตเศรณี อดีตแม่ทัพน้อยที่ 1
แต่บางคนไม่ได้ก้าวขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.2 แต่เคยวนเวียนรับราชการคุมกำลังในพื้นที่นี้มาก่อน
เช่น พล.อ.วัฒนา สรรพานิช อดีตรองผบ.สส. และพล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตผบ.ทบ.
หรือ อดีตยังเติร์กคนดัง "วีรบุรุษตาพระยา" พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร อดีตผู้การกรม 2 ค่ายจักรพงษ์ ถ้าอนาคตไม่วูบไปกับเหตุการณ์เมษาฮาวาย ก็มีสิทธิ์คั่วเก้าอี้ผบ.พล.ร.2 ในยุคนั้นเหมือนกัน
สำหรับนายทหารที่มีตำแหน่งสำคัญในปัจจุบัน ที่เคยผ่านเส้นทางเติบโตจากบูรพาพยัคฆ์ได้แก่
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.อุดมเดช สีตบุตร รองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ธีรชัย นาควานิช รองแม่ทัพภาคที่ 1
โดยมี พล.ต.วลิต โรจนภักดี เป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. คนปัจจุบัน
ทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.ท.คณิต มีส่วนเป็นกำลังสำคัญในการทำรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ.2549
รวมทั้งยังถือเป็นขั้วอำนาจสำคัญทางฝ่ายทหาร ที่มีอิทธิพลต่อรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะด้วย
นอกจากเส้นทางการเติบโตมาจากสายบูรพาพยัคฆ์ พล.อ. อนุพงษ์และพล.อ.ประยุทธ์ยังเป็นกลุ่มนายทหารที่ผ่านเส้นทางของ "ทหารเสือราชินี"
คือเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์มาแล้วด้วย
บูรพาพยัคฆ์ผงาดคุมอำนาจกองทัพบกติดต่อกันมาหลายปี
และน่าจะต่อเนื่องไปอีกหลายปี
หน้า 6
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hNREExTURnMU13PT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1DMHdPQzB3TlE9PQ==
--
http://www.classifiedthai.com/event_view.php
--
http://www.classifiedthai.com/event_view.php
วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
4 ว.สารพัดช่างตกประเมินรอบ 2
4 ว.สารพัดช่างตกประเมินรอบ 2
"สุโขทัย-สมุทรปราการ-ปราจีนบุรี-ธนบุรี" "สมหวัง"แตะเบรกอาชีวะเฮโลสอน"ป.ตรี"
เมื่อ วันที่ 4 พฤศจิกายน นายสมหวัง พิธิยานุวัฒน์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เปิดเผยผลการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสองด้านการอาชีวศึกษา ประเภทสารพัดช่าง ว่า จากการประเมินวิทยาลัยสารพัดช่าง 50 แห่ง พบว่า ส่วนใหญ่ได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษาของ สมศ. 42 แห่ง คิดเป็น 84% ไม่ได้รับการรับรอง 4 แห่ง คิดเป็น 8% ได้แก่ วิทยาลัยสารพัดช่างสุโขทัย วิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการ วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี และวิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี และรอพินิจ 4 แห่ง คิดเป็น 8% ได้แก่ วิทยาลัยสารพัดช่างพัทลุง วิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร วิทยาลัยสารพัดช่างตราด และวิทยาลัยสารพัดช่างชลบุรี ส่วนที่รอพินิจต้องปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายใน 6-12 เดือน
นายสมหวัง กล่าวว่า เมื่อจำแนกเป็นรายมาตรฐาน ปรากฏว่า มาตรฐานด้านประกันคุณภาพภายใน มีสถานศึกษาที่อยู่ในระดับดีมาก 9 แห่ง คิดเป็น 18% ดี 32 แห่ง คิดเป็น 64% พอใช้ 5 แห่ง คิดเป็น 10% และควรปรับปรุง 1 แห่ง คิดเป็น 2% ต้องปรับปรุง 3 แห่ง คิดเป็น 6% ด้านการฝึกอบรม มีสถานศึกษาที่อยู่ในระดับดีมาก 16 แห่ง คิดเป็น 32% ดี 32 แห่ง คิดเป็น 64% พอใช้ 2 แห่ง คิดเป็น 4% ด้านจัดการศึกษา มีสถานศึกษาที่อยู่ในระดับดีมาก 5 แห่ง คิดเป็น 10% ดี 36 แห่ง คิดเป็น 72% พอใช้ 9 แห่ง คิดเป็น 18% ด้านการเทียบโอนผลการเรียนรู้ มีสถานศึกษาที่อยู่ในระดับดีมาก 8 แห่ง คิดเป็น 29.63% ดี 16 แห่ง คิดเป็น 59.26% พอใช้ 3 แห่ง คิดเป็น 11.11% ด้านการให้บริการวิชาการและวิชาชีพต่อชุมชนและสังคม มีสถานศึกษาที่อยู่ในระดับดีมาก 26 แห่ง คิดเป็น 52% ดี 23 แห่ง คิดเป็น 46% พอใช้ 1 แห่ง คิดเป็น 2% และด้านการบริหารและการจัดการ มีสถานศึกษาที่อยู่ในระดับดีมาก 16 แห่ง คิดเป็น 32% ดี 31 แห่ง คิดเป็น 62% พอใช้ 1 แห่ง คิดเป็น 2%
นายสมหวังกล่าวอีกว่า กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างกฎกระทรวงศึกษาธิการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะ กรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เพื่อจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา 19 แห่งนั้น จากการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสองด้านการอาชีวะของรัฐ และเอกชน พบว่า สถานศึกษาที่ได้รับการประเมินภายนอกแล้ว 549 แห่ง ส่วนใหญ่ 424 แห่ง มีผลการประเมินอยู่ในระดับดี และ 101 แห่ง มีผลการประเมินในระดับดีมาก มีสถานศึกษารอพินิจ 25 แห่ง แบ่งเป็น ของรัฐ 14 แห่ง เอกชน 21 แห่ง และสถานศึกษาที่ สมศ.ไม่รับรองมาตรฐาน 59 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นของรัฐ 27 แห่ง และเอกชน 32 แห่ง เมื่อพิจารณาจำนวนอาจารย์ผู้สอน พบว่า ปัจจุบันวิทยาลัยในสังกัด สอศ.มีสัดส่วนอาจารย์ที่เป็นลูกจ้างกว่า 50% และมีวุฒิระดับปริญญาตรี 73% หรือ 2 ใน 3 ของอาจารย์ทั้งหมด ดังนั้น การเปิดสอนระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยี หรือปฏิบัติการของอาชีวะ ต้องรีบพัฒนาบุคลากร อย่างน้อยผู้ที่จะสอนระดับปริญญาตรีได้ต้องจบปริญญาโทขึ้นไป และควรมีประสบการณ์ในสถานประกอบการมากพอ ดังนั้น แม้จะมีกฎกระทรวงแล้ว แต่การอนุมัติให้กลุ่มสถาบันเปิดสอนถึงระดับปริญญาตรี ควรพิจารณาความพร้อมของอาจารย์ และประเภทสาขาวิชา โดยยึดผลการประเมินของ สมศ.ไม่ใช่ถือเป็นการขยายโอกาส เพราะจะกลายเป็นปัญหาใหม่ในวงการอาชีวะ
"การ กำหนดให้กลุ่มสถาบันใดเปิดสอนปริญญาตรีในสาขาวิชาไหน ควรดูผลประเมินของ สมศ.ก่อน หากกลุ่มใดมีสถานศึกษาที่ได้รับการประเมินในระดับดีมาก ถือเป็นกลุ่มที่มีความพร้อมมาก แต่กลุ่มใดไม่ได้รับการรับรองมาก ต้นสังกัดต้องเร่งพัฒนาเพื่อยกคุณภาพให้ได้มาตรฐาน ขณะเดียวกันทั้ง 101 แห่ง ที่ได้รับการประเมินในระดับดีมาก กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) น่าจะนำร่องจริงจัง โดยให้สถานศึกษาในกลุ่มนี้มีฐานะเป็นนิติบุคคล เริ่มภูมิภาคละ 1-2 แห่ง บริหารจัดการ และรับงบประมาณโดยตรงจากสำนักงบประมาณ เพื่อแก้ไขปัญหาอาจารย์ลูกจ้าง และบรรจุเป็นข้าราชการได้เอง จากนั้นขยายผลในกลุ่มที่ได้ระดับดีให้เป็นนิติบุคคล" นายสมหวังกล่าว
หน้า 22
--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
kb
http://www.healthstation.in.th/index1.html
http://camp02.blogspot.com/ camp02
http://kb1951.blogspot.com/ tkpark
http://kbparks.blogspot.com/ tkpark9
http://word1951.blogspot.com/ wordpress
http://www.baanjomyut.com/library/lotus
http://www.pwdom.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com/2009
http://www.twitter.com/kajorn
http://www.twitter.com/BKKFlashCamp
http://camp02.readyhomepage.com
http://www.twitter.com/sun1951
http://www.twitter.com/joomlacorner
http://sun1951.vaivaitraining.com
http://sun1951.wordpress.com
http://www.educationatclick.com/th/
http://gotoknow.org/blog/krunoppol/
http://baankruaeed.wordpress.com/
http://ngaochan.hi5.com/
http://www.oknation.net/blog/subaltern
http://gotoknow.org/migrantworkers
วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล ( Tourism for All or Barrier-free Tourism )
http://www.parent-youth.net
http://www.thaihof.org
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://elibrary.nfe.go.th
http://ilaw.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://icann-ncuc.ning.com
http://dbd-52.hi5.com
http://www.industry4u.com
http://logistics.dpim.go.th
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://www.educationatclick.com/th/
http://www.think.co.th/idea/?p=151
From: kwanruthai <kwanruthai@dpiap.org>
To:
Sent: Fri, October 30, 2009 4:44:13 PM
Subject: การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล ( Tourism for All or Barrier-free Tourism )
เรียนทุกท่าน
ขอส่งข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล ( Tourism for All or Barrier-free Tourism ) เอกสารตามไฟล์แนบ ขออภัยหากไฟล์แนบมีขนาดใหญ่
โดยที่ผ่านมาพันโทต่อพงษ์ กุลครรชิตและทีมงานดีพีไอเอพี จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้คนพิการและส่งเสริมสภาพแวดล้อมเพื่อการท่องเที่ยวสำหรับคนทั้งมวลในพื้นที่ประสบภัยทสึนามิ (Training Workshop on Barrier-free Tourism) เมื่อวันที่ 19-20 พฤศจิกายน 2548 เขาหลัก จ.พังงา โดยมีโรงแรม สถานประกอบการต่างๆในจังหวัดพังงา ที่ถูกผลกระทบจากภัยธรรมชาติทสึนามิ ร่วมประชุมในครั้งนี้
โดยคุณศรัญ ผู้บริหารบ้านเขาหลักรีสอร์ท ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ และเป็นผู้นำแนวความคิดไปปรับใช้ โดยมีแนวคิดที่กว้างไกลกว่ากฏหมายที่ระบุไว้ โดยมองตามหลักความเป็นจริงว่า การจัดสิ่งอนวยความสะดวกต้องเพียงพอต่อผู้ใช้บริการมากกว่าจัดสิ่งอำนวยความสะดวกตามที่กฏหมายกำหนด เท่านั้น และเป็นรีสอร์ทอันดับต้นๆของประเทศไทย ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ และได้รับรางวัลสถานที่ดีเด่นที่เอื้อต่อคนพิการ จัดโดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายนที่ผ่านมา
ขออนุญาตลอกข้อความจากพันโทต่อพงษ์ กุลครรชิต ท่านเคยกล่าวว่า " งานด้านจัดการสภาพแวดล้อมนั้นยิ่งใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ เหมือนการสร้างบ้านแปงเมือง ถ้าทุกคนทุกระดับที่สนใจงานพัฒนาคนพิการจะเข้าใจ และช่วยกันคนละไม้คนละมือ ติดตามตรวจสอบคนละโครงการ ไม่นานจะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน จะรออาศัยการผลักดันจากส่วนกลางหรือกฎหมาย/นโยบายที่ดีไม่เพียงพอ การติดตามการปฏิบัติตามกฎหมายด้วยวิธีการทั้งมวลก็สำคัญไม่น้อยกว่าตัวกฎหมายเอง เมื่อสภาพแวดล้อมได้รับการจัดการหรือปรับปรุงให้เอื้ออำนวย เราจะเห็นคนพิการกล้าออกมาปรากฏตัวมากขึ้น เจตคติของคนจะค่อยๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดี มองคนพิการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เจตคติต่อการจ้างงาน การศึกษา ฯลฯ ก็ค่อยๆ เปลี่ยนตาม นี่ไม่ใช่อุดมคติเลย คือเรื่องจริงที่ทำได้ ทีละน้อยๆระยะหลังๆ นี้มีการใช้งบประมาณเพื่อพัฒนาสิ่งก่อสร้างและแหล่งท่องเที่ยวกันมาก ทั้งโดยรัฐบาลและ อปท. พบว่าจำนวนมากอยู่ภายใต้บังคับกฎกระทรวง กรมโยธาฯ ๒๕๔๘ รวมทั้งงานก่อสร้างใหญ่น้อย แต่ขาดคนพิการ/องค์กร คอยเป็นหูเป็นตาการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล Tourism for All or Barrier-free Tourism มีส่วนสำคัญที่กระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมให้จัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ คนชรา นอกเหนือไปจากนำรายได้เข้าประเทศจากคนกลุ่มนี้มหาศาล
กฎกระทรวง ๒๕๔๘….เรื่อง กำหนดสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคารสำหรับผู้พิการ หรือทุพพลภาพ และคนชรา
ข้อ ๓ อาคารประเภทและลักษณะดังต่อไปนี้ ต้องจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพ และคนชราตามที่กำหนดในกฎกระทรวงนี้ ในบริเวณที่เปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไป
(๑) โรงพยาบาล สถานพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข สถานีอนามัย อาคารที่ทำการของราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย สถานศึกษา หอสมุดและพิพิธภัณฑสถานของรัฐ สถานีขนส่งมวลชน เช่น ท่าอากาศยาน สถานีรถไฟ สถานีรถ ท่าเทียบเรือ ที่มีพื้นที่ส่วนใดของอาคารที่เปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไปเกิน ๓๐๐ ตารางเมตร
(๒) สำนักงาน โรงมหรสพ โรงแรม หอประชุม สนามกีฬา ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าประเภทต่าง ๆ ที่มีพื้นที่ส่วนใดของอาคารที่เปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไปเกิน ๒,๐๐๐ ตารางเมตร
กฎกระทรวง ๒๕๔๒….เรื่อง ลักษณะอาคาร สถานที่ ยานพาหนะ หรือบริการสาธารณะอื่น ที่ต้องมีอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกโดยตรงแก่คนพิการ "
จากที่เราเห็นความสำเร็จของการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกในบ้านเขาหลักรีสอร์ทนั้น เกิดจากการทำงานอย่างหนักระหว่างการร่วมมือกันของคนพิการ องค์กรคนพิการ องค์กรในชุมชน และสถานประกอบการ ทำงานร่วมกันอย่างเท่าเทียม จึงนำมาสู่การมีส่วนร่วมในสังคมอย่างเสมอภาค และงานด้านคนพิการ จำเป็นต้องร่วมมือกันในหลายๆฝ่าย หลายๆด้าน อยากให้ทุกคนตระหนักถึง และช่วยกันพัฒนาให้สังคมปราศจากอุปสรรค ทำให้คนพิการสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้อย่างแท้จริง
ขออภัยหากอีเมลฉบับนี้เป็นการรบกวน หรือ ส่งซ้ำ หากท่านไม่ประสงค์รับข้อมูลข่าวสาร/ประชาสัมพันธ์ กรุณาแจ้งได้ที่ kwanruthai@dpiap.org
ขอบคุณค่ะ
ขวัญฤทัย สว่างศรี
ผู้ประสานงานโครงการภายในประเทศ
องค์การคนพิการสากลประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
Best regards,
Ms.Kwanruthai Savangsri
National Project Coordinator
**************************************************************
Disabled Peoples' International Asia-Pacific Region (DPI/AP)
92 Phaholyothin 5 Road, Samsennai, Phayathai Bangkok 10400 THAILAND
Tel: 66 (0)2 271-2123
Fax: 66 (0)2 271-2124
Email: kwanruthai@dpiap.org
Website: http://www.dpiap.org/
**************************************************************